ใช้ความนิ่งสยบแรงกดดัน “วีระเทพ ป้อมพันธุ์”

ใช้ความนิ่งสยบแรงกดดัน “วีระเทพ ป้อมพันธุ์”


นี่คืออีก 1 ผลผลิต จากรั้วกิเลนผยอง เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่ได้ก้าวขั้นมาเป็นกำลังหลักให้กับทีมชุดใหญ่ของสโมสรและต่อยอดไปถึงในระดับทีมชาติ คงไม่ต้องสงสัยว่าชื่อของเขาเริ่มเป็นที่รู้จักได้อย่างไรหากใครได้ติดตามฟุตบอลไทยลีกจะรู้ได้เลยว่าเขาคนนี้คือแกนกลางคนสำคัญของเมืองทองที่จะขาดไม่ได้ในยุคนี้ด้วยวัยเพียง 25 ปี เตอร์ “วีรเทพ ป้อมพันธุ์

ข่าวฟุตบอล goalstorm หลายๆคนอาจไม่รู้ว่า เจ้าเตอร์เขาไม่ได้มีพื้นฐานฟุตบอลมาตั้งแต่เด็ก แต่เขาเริ่มมาจากการเล่นฟุตซอลตั้งแต่เรียนที่โรงเรียนศรีบุญยานนท์ จังหวัดนนทบุรี ก่อนที่จะได้ต่อยอดมาสู่โรงเรียนที่เลื่องชื่อด้านฟุตซอลอย่าง ปทุมคงคา เขาเข้าร่วมการแข่งขันฟุตซอลในระดับเยาวชนแทบจะทุกรายการและเริ่มสร้างชื่อมาตั้งแต่นั้น และเคยมีแมวมองจากพีทีที บลูเวฟ ชลบุรี สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งวงการโต๊ะเล็กไทยให้ความสนใจในตัวเขาแต่ก็ไม่มีอะไรไปมากกว่านั้น จนจบม.6 เขาได้ไปเรียนในระดับอุดมศึกษาที่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในโควต้านักฟุตบอล เขาเลือกเรียน ครุศาสตร์ ที่นั้น และได้เล่นฟุตบอลกับทีม จามจุรี ยูไนเต็ดในระดับ ไทยลีก 3 ในปี 2016

การเปลี่ยนจากฟุตซอลมาเล่นฟุตบอลดูเหมือนว่าเขาจะชื่นชอบฟุตบอลมากขึ้น เพราะแต่ก่อนจริงอยู่มี่เขาเริ่มเล่นฟุตซอลมาตลอด แต่ในตอนเรียนม.ปลายเขาก็เคยไปเล่นฟุตบอลเดินสายกับเพื่อนๆมาบ้าง ทำให้พื้นฐานทางฟุตบอลก็แน่นขึ้นมามาก พอมาเล่นในระดับอาชีพกับ จามจุรีเขาจึงทำผลงานได้ดี และตลอดการค้าแข้ง 2 ปี กับจามจุรี เขาลงสนามไปทั้งหมด 64 นัด ยิงไป 3 ประตู และ แอสซิสต์ไปอีก 13 ลูก ด้วยฟอร์มการเล่นแบบนี้ทำให้เขาก้าวไปติด ทีมฟุตบอลมหาวิทยาลัย ทีมชาติไทย ในการแข่งขันมหาวิทยาลัย อาเซียนครั้งที่ 19 ที่พม่า โดยต่อมาทางด้าน เมืองทอง ยูไนเต็ด ให้ความสนใจในตัวเขาและดึงมาร่วมทีมด้วยวัยเพียงแค่ 21 ปี

ในปี 2019 ถือเป็นครั้งแรกที่เขาได้สัมผัสเวทีฟุตบอลไทยลีก 1 ลีกสูงสุดของประเทศและลงเล่นไป 58 นาที ถึงแม้ว่าในปีแรกจะไม่ได้รับโอกาสมากมายแต่เขาก็ยังคงอยู่มุ่งมั่นกับทีมต่อไป และได้โอกาสครั้งสำคัญแบบที่ไม่เคยคาดคิดในปี 2020 เมื่อ กิเลยผยอง ปล่อยตัวแข้งคนสำคัญของสโมสรที่อยู่มาอย่างยาวนานอย่าง สารัช อยู่เย็น ไปให้บีจีปทุม ยูไนเต็ด ทำให้พื้นที่ตรงนั้นต้องหาคนมาทดแทน แต่ด้วยปรัชญาของสโมสรในตอนนั้นต้องการที่จะดันแข้งเลือดใหม่ขึ้นมาสู่ทีมเป็นแกนหลัก

ทำให้ตำแหน่งตัวคุมเกมของเมืองทอง ยูไนเต็ด ตกมาที่ เจ้าเตอร์ วีระเทพป้อมพันธุ์ โดยเขาก็ได้คว้าโอกาสตรงนั้นไว้ได้อย่างสวยงาม สิ่งที่ทุกคนเห็นมาตลอดตั้งแต่เขาได้รับโอกาสลงสนามคือการจ่ายบอลที่ง่ายๆให้เพื่อนเล่น และเคลื่อนที่ตลอดเวลาเมื่อในยามที่ไม่มีบอล ถึงแม้ว่าเขาอาจจะยังไม่สามารถยกระดับไปแทนที่สารัชได้มากนัก แต่โดยรวามแล้วถือว่ามีอนาคตที่สดใสในสายตาของแฟนบอลกิเลนผยอง

ในยุคของ มาริโอ ยูรอฟกี้ วีระเทพ ถือเป็นห้องเครื่องที่คอยขับเคลื่อนเกมส์ให้เมืองทองมาตลอดในฤดูกาล 2021/2022 หากจะนึกว่าจำเป็นกับทีมขนาดไหนก็คงต้องเปรียบเสมือน เอ็นโกโล่ กองเต้ ถ้าหากไม่เจ็บ ไม่แบน เขาจะต้องลงสนามเป็น 11 ตัวจริงตลอด ในยุคของโค้ชมาริโอ ด้วยฟอร์มการเล่นแบบนี้ทำให้ในช่วงปลายปี 2021 เขาถูกเรียกติดทีมชาติชุดใหญ่ ชุดลุยศึกชิงแชมป์อาเซียนที่ประเทศสิงคโปร์

เขาได้โอกาสลงเล่นในเกมนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่มที่พบกับเจ้าภาพสิงคโปร์ ผลงานของเขาในนามทีมชาติครั้งแรก ทุกคนต่างมองไปในทิศทางเดียวกันว่า ความนิ่งของเขาที่แสดงออกมาได้อย่างน่าทึ่งจนไม่คิดว่านี่เป็นการลงสนามในนามทีมชาติครั้งแรก ทั้งการจ่ายบอล คลาสบอล การเอาตัวรอดในพื้นที่แคบๆ การคุมจังหวะต่างๆในเกม การวิ่งขึ้นวิ่งลงมาล้วงบอลให้เพื่อนร่วมทีม เขาทำมันได้อย่างดีเยี่ยม สถิติของเขาในเกมนี้ สัมผัสบอล 91 ครั้ง ส่งบอลทั้งหมด 74 ครั้ง ผ่านบอลสำเร็จ 89% สร้างโอกาสทำประตู 3 ครั้ง สกัดบอลสำเร็จ 5 ครั้ง เลี้ยงบอลสำเร็จ 2 ครั้ง ช่วยให้ทีมเอาชนะสิงคโปร์ไปได้ 2-0 จบด้วยการเป็นที่ 1 ของสาย หลังเกมแฟนบอลแห่ชื่นชมเขาว่าทำหน้าที่ทดตัวหลักได้อย่างดีเยี่ยมดูมีอนาคตที่ดีกับทีมชาติ แพสชั่นและความมุ่งมั่นมาอย่างเต็มเปี่ยม ฟุตบอลไทย goalstorm

เจ้าเตอร์ไม่เคยคิดว่ากราฟชีวิตที่มีฟุตบอลจะนำพาเขามาสู่จุดนี้ เขาเดินมาไกลกว่าที่เคยตั้งไว้ และเมื่อมาถึงขนาดนี้แล้วเขาก็อยากจะต่อยอดกับเป้าหมายของตัวเอง หวังว่าสักวันนึงจะได้ไปค้าแข้งในลีกต่างประเทศเหมือนพี่ๆในทีมชาติ ซึ่ง ณ ตอนนี้ ดูเหมือนว่าคำว่าเป็นไปไม่ได้จะไม่อยู่ในหัวเขาเลยสักนิด เขายังคงมุ่งมั่นและพัฒนาฝีเท้าขึ้นไปเรื่อยๆอย่างไม่ย่อท้อ และนี่ถือเป็นอีกเพชรเม็ดงามของ เมืองทอง และทีมชาติไทย ที่จะต้องรักษาและเจียระไนเอาไว้อย่างดี

ดูข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ : Goalstorm


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

หมายเลขที่ต้องคว้ามาให้ได้ ดาเนี่ยล มัลดินี่

เบอร์ 1 ของคนไทย ที่ 1 ในใจคุณพ่อ "กวินทร์ ธรรมสัจนันท์"